เที่ยวรอบเซนไดโดยรถบัสกันเถอะ!
Table of Contents
เซนไดเปรียบเสมือนประตูสู่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (โทโฮคุ)ของญี่ปุ่น จะรออะไรกันล่ะ ไปเที่ยวเซนไดกันเลย
เซนไดตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของญี่ปุ่นเป็นเมืองในจังหวัดมิยางิ ซึ่งเป็นเมืองที่มีขนาดที่สุดในภูมิภาคนี้อีกด้วย ระยะทางก็ไม่ไกลมากโตเกียวเพียงหนึ่งชั่วโมงกว่าๆโดยรถไฟชินคันเซนหรือจากสนามบินหรือแม้กระทั่งทางเรือก็สามารถเดินทางมาเที่ยวเมืองเซนไดได้
เซนไดเป็นเมืองน่าท่องเที่ยวขึ้นชื่อทั้งกิจกรรมทางทะเล ไม่ว่าจะเป็นการเล่นวินเซิร์ฟ ตกปลา หรือจะเป็นการเล่นสกีในฤดูหนาว เป็นต้นด้วยธรรมชาติที่สวยงามของเมือง ผู้คนขนานนามเซนไดว่าเป็นเมืองแห่งธรรมชาติ
ทำให้เมืองนี้นักท่องเที่ยวสามารถมาเที่ยวกันได้ตลอดทั้งปี
ถึงแม้ว่าในช่วงปี 2011จะเกิดสึนามิครั้งใหญ่มีความสูญเสียมากมาย แต่ปัจจุบันการท่องเที่ยวของเมืองโดยเฉพาะทางทะเลกลับได้รับความนิยมมากขึ้นอย่างมาก
วันนี้เราจะพาไปชมเมืองเซนไดโดยการนั่งรถบัสหรือที่เรียกกันว่า รูพุรุเซนได (Loople Sendai Bus)
รูพุรุเซนไดเป็นการนั่งรถบัสสไตล์คลาสิคเที่ยวรอบเมือง
ถ้ากล่าวถึงรูพุรุเซนไดก็นึกถึงการนั่งบัสสไตล์คลาสิคเที่ยวกันนั้นเอง!
สีรถที่ออกแนววินเทจ เช่น สีฟ้าคราม เขียวแก่ๆ ดูแล้วงดงามจะถ่ายรูปก็สวยงาม
เนื่องจากเป็นรถบัสนั่งเที่ยวรอบเมืองดังนั้น ด้วยระยะเวลาที่ต่างกันเราจะสามารถชมหรือนั่งรถรูพุรุเซนไดได้หลากหลายเช่นกัน
ด้านในรถก็ตกแต่งและมีเครื่องอำนวยความสะดวกอย่างทันสมัยไว้เช่นกัน!😊
มีไวไฟติดตั้งไว้ทั้งภายในรถและที่ป้ายรถบัสอีกด้วย
การใช้บริการ
กลับไปยังสารบัญการจ่ายค่าตั๋ว
ค่าบริการต่อเที่ยวสนนราคาก็ 260 เยน
สำหรับราคาดังกล่าวเป็นราคาเดียวกันหมดไม่ว่าจะขึ้นจากป้ายไหนหรือลงป้ายไหนก็ตาม
แน่นอนว่าเป็นรถบัสนำเที่ยวรอบเมือง ดังนั้นรูพุรุเซนไดบัสมีตั๋วแบบวันเดย์หรือนั่งไม่จำกัดเที่ยวต่อวันไว้จำหน่ายอีกด้วย
ราคาก็ไม่แพงเพียง 620 เยนเท่านั้น
ใครอยากชมสถานที่ท่องเที่ยวได้หลายๆที่ขอแนะนำตั๋ววันเดย์กันเลยนะครับ
หรือจะเป็นตั๋วรถไฟใต้ดินแบบไม่อั้น รูพุรุเซนไดร่วมกับรถไฟใต้ดินก็มีจำหน่ายเช่นกัน
ซึ่งรูพุรุเซนไดแบบนี้จะมีตั๋วนั่งรถไฟในตั๋ววันดังกล่าวให้ได้ใช้อีกด้วย
เที่ยวรอบเซนไดแบบนั่งรถไฟใต้ดินก็สนุกไม่เลวเลยทีเดียว ถือเป็นประสบการณ์ที่น่าลองสักครั้งหนึ่งในชีวิต
สนนราคาก็ 900 เยน
ไม่ว่าจะแบบไหนก็เป็นในรูปแบบการ์ด
เพียงแค่แสดงการ์ดให้กับคนขับรถบัสหรือเดินผ่านช่องทางขาเข้าตอนจะขึ้นรถไฟเพียงเท่านี้ก็สามารถใช้งานได้แล้วครับ 🤗
〇ตั๋วเที่ยวเดียว ราคาผู้ใหญ่ 260 เยน และเด็ก 130 เยน
〇ตั่ววันเดย์หรือรูพุรุเซนไดนั่งไม่จำกัดเที่ยว ราคาผู้ใหญ่ 620 เยน และเด็ก 310 เยน
〇ตั๋ววันเดย์แบบนั่งรถไฟไม่จำกัดหรือรูพุรุเซนได้+รถไฟใต้ดินไม่จำกัดเที่ยว ราคาผู้ใหญ่ 900 เยน และเด็ก 450 เยน
(เด็กตั้งแต่ระดับมัธยมต้นขึ้นไปจะใช้ราคาผู้ใหญ่ ส่วนราคาเด็กจะใช้กับเด็กอายุไม่เกิน 12 ปี)
สามารถหาซื้อการ์ดตั๋วรูพุรุเซนได้+รถไฟใต้ดินไม่จำกัดเที่ยวได้ที่ไหนบ้าง
กรุณาดูสถานที่ตามภาพด้านล่างนี้
แน่นอนว่าตามแหล่งสถานที่ท่องเที่ยวใหญ่หรือโรงแรมก็มีวางจำหน่ายเช่นกัน
▼เส้นทางรถบัสฝั่งทางออกตะวันตกของสถานีเซนได
กลับไปยังสารบัญเวลาเดินรถ
เริ่มที่สถานีเซนได เวลา 9:00 ตรง สำหรับเที่ยวต่อไปจะมีทุกๆ 20 นาที
สำหรับใครที่วางแผนจะเที่ยวสถานที่ใดๆนานก็ไม่ต้องกังวลกับระยะเวลารอรถบัสเที่ยวต่อไปเพราะด้วยระยะเวลาที่เว้นไม่นานทำให้เหมือนเวลามาเที่ยวแล้วมีรถมารับอะไรประมาณนั้นเลย
และที่สำคัญช่วงวันหยุดต่างๆ รวมถึงช่วงเดือนสิงหาคมนั้น จะมีรถบัสบริการในทุกๆ 15 นาทีกันเลย
〇 วันธรรมดา วิ่งทุกๆ 20 นาที
〇 วันหยุดต่างๆและช่วงเดือนสิงหาคม วิ่งทุกๆ 15 นาที
〇เที่ยวแรกเริ่ม 9:00 เที่ยวสุดท้าย 17:10
*ข้อระวังที่สถานีเซนไดนั้น รถบัสที่ออกหลังเวลา 15:00 จะเป็นรถวิ่งวนกลับมาจอดที่สถานีเซนไดเท่านั้น
กลับไปยังสารบัญการขึ้นรถบัส
สำหรับรถบัสรูพุรุเซนไดจะขึ้นประตูที่กลางรถและลงประตูหน้ารถ
จะชำระเงินค่าโดยสารตอนลงรถนะครับ
สำหรับป้ายรถเมล์นั้นก็จำไม่ยากเพราะรถบัสรูพุรุเซนไดจะจอดเฉพาะป้ายของตัวเองเท่านั้น จุดสังเกตุก็ไม่ยากเพราะป้ายรถเมล์จะมีลักษณะสีหรือลักษณะคล้ายๆรถบัสนั่นเอง
กลับไปยังสารบัญขอแนะนำจุดท่องเที่ยวสำหรับรถบัสรูพุรุเซนได
จำนวนป้ายทั้งหมดที่รถบัสจะจอดมีด้วย 16 ที่ ตามหมายเลขด้านล่าง
สถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจทั้ง 16 แห่ง แต่วันนี้ขอแนะนำสถานที่เด่นๆ ดังนี้
กลับไปยังสารบัญวัดซุยโฮเดน (Suihoden)
・ป้ายรถบัสหมายเลข:④ซุยโฮเดนมายด์
・เวลาทำการตั้งแต่ 9:00~16:30
・ค่าเข้าชม: บุคคลทั่วไป 550เยน 、นักเรียนมัธยมปลาย 400 เยน 、นักเรียนมัธยมต้นและประถม 200 เยน
(สำหรับท่านใดที่ซื้อตั๋วรถบัสวันเดย์ ลดค่าเข้า 100 เยน)
・เวลาเที่ยวชม: ประมาณหนึ่งชั่วโมง
ซุยโฮเดน คือ วัดที่มีสุสานฝั่งศพของนักรบผู้เก่งกาจของเซนไดในยุคแรกๆ คือ ท่านดาเตะ มาซามุเนะ
อาคารภายในวัดจะมีสุสาน(อัฐิ) ,ของมีค่าของท่านดาเตะ มาซามุเนะจัดแสดงไว้ รวมไปถึงเอกสารความรู้ต่างๆเกี่ยวเมืองเซนไดให้ได้ศึกษากันด้วย
ที่วัดแห่งนี้มีสถาปัตยกรรมที่สีสรรสะดุดตาต่อผู้ที่มาเที่ยวชม และยังมีแม่น้ำฮิโรเซะที่คดเคี้ยวล้อมรอบไปมาทำให้ในช่วงฤดูใบไม้ผลิต้นไม้จะมีสีเขียวสดใส ช่วงฤดูใบไม้ร่วงใบไม้สีเหลืองแดงสวยงามกลมกลืนไปกับสีสรรของวัดได้อย่างลงตัว
ข้อมูลช่วงฤดูใบไม้ร่วง
ในช่วงต้นเดือนพฤศจิกายนถึงปลายเดือนโดยประมาณ ภายในสวนจะเป็นโคโย (เมเปิ้ล) สีสรรสวยงาม และช่วงเวลาตั้งแต่17:00~19:00 นั้นจะมีการตกแต่งด้วยแสงไฟเพิ่มความสวยงามอีกด้วย
ถ้ามีโอกาสต้องมาชมให้ได้นะครับ
พิพิธภัณฑ์เมืองเซนได
・ป้ายรถบัสหมายเลข:⑤ฮาคุบุทสึคัง・โคคุสัยเซนเตอร์มายด์
・เวลาทำการตั้งแต่ 9:00~16:45
・ค่าเข้าชม: บุคคลทั่วไปและนักศึกษา 460เยน 、นักเรียนมัธยมปลาย 230 เยน 、นักเรียนมัธยมต้นและประถม 110 เยน
(สำหรับท่านใดที่ซื้อตั๋วรถบัสวันเดย์หรือมากันเป็นกลุ่มลดเหลือ ผู้ใหญ่ 360 เยน・นักเรียนมัธยมปลาย 180 เยน・อื่นๆ 90 เยน)
・มีบริการไกด์นำเที่ยวชม และถ้าต้องการบริการไกด์ภาษาอังกฤษกรุณาจองล่วงหน้าหนึ่งอาทิตย์
・เวลาเที่ยวชม: ประมาณหนึ่งชั่วโมง
ที่พิพิธภัณฑ์เซนไดแห่งนี้ได้มีการเก็บของต่างๆ ของท่านดาเตะ (ผู้ก่อตั้งเมืองเซนได) ไว้มากมายไม่ว่าจะเป็นภาพวาด ตุ๊กตา เกราะ และสิ่งของสมบัติมีค่าต่างๆ ไว้มากมาย ซึ่งหาชมที่ไหนไม่ได้นอกจากที่นี่เท่านั้น
การเที่ยวชมพิพิธภัณฑ์แห่งนี้สามารถเลือกได้ 2 รูปแบบ คือแบบเที่ยวตามโปรแกรม และ เที่ยวตามปกติ ซึ่งปกติคนทั่วไปเลือกเที่ยวตามปกติก็ถือว่าได้ชมหรือสัมผัสครบถ้วนครับ สำหรับใครที่ต้องไกด์นำเที่ยวภาษาอังกฤษด้วยก็จองกันก่อนล่วงหน้า เพียงเท่านี้ก็ได้เช่นกัน
บริเวณด้านหน้าพิพิธภัณฑ์จะมีบ่อเล็กๆเรียกกันว่า โกะชิคินุมะ ว่ากันว่าเป็นบ่อต้นกำเนิดของสเก็ตน้ำแข็ง อย่าลืมแวะไปชมกันนะครับ
กลับไปยังสารบัญซากปราสาทเซนได
・ป้ายรถบัสหมายเลข:⑥เซนไดโจอาโตะ
・ระยะเวลาเที่ยวชม: ประมาณสองชั่วโมงรวมทานอาหาร
・เวลาทำการ
อาคารเอกสารอาโอบะโจ 9:00~16:00
ร้านอาหารและเครื่องดื่ม เริ่มประมาณ 9:00 หรือ 10:00 เป็นต้นไป
・ค่าเข้าชมอาคารเอกสารอาโอบะโจ บุคคลทั่วไป 700 เยน 、นักเรียนมัธยม 500 เยน、อื่นๆ 300 เยน
(แสดงตั๋วเดินทางวันเดย์ ลดพิเศษอีก 200 เยน)
ท่านดาเตะ มาซามุเนะ เป็นผู้สร้างปราสาทแห่งนี้หรือจะเรียกง่ายๆ ว่า บ้านของท่านดาเตะ นั่นเอง
ปราสาทแห่งนี้ถูกเลือกให้ติดหนึ่งในร้อยปราสาทของญี่ปุ่น แต่ตัวปราสาทไม่หลงเหลือให้เห็นในปัจจุบัน ถึงกระนั่นเรายังสามารถดูรูปร่างปราสาทได้จากเอกสารในอาคารเอกสารได้
และที่บริเวณป้ายรถบัสนั้น เรายังสามารถชมกำแพงหินบางส่วนที่หลงเหลือไว้ได้อีกเช่นกัน
ซากปราสาทเซนได กินเนื้อที่ประมาณภูเขาหนึ่งลูก ดังนั้นเราสามารถที่จะเที่ยวชมอาคารต่างๆ ซากปราสาท สวนสาธารณะ รวมไปถึงทานอาหารได้อีกด้วย
ที่นี่ยังมีรูปปั้นของท่านดาเตะ มาซามุเนะ ทำให้เรานึกถึงเรื่องราวๆต่างในการสร้างเมือง ตลอดวิวทิวทัศน์ที่สวยงามในบริเวณรอบๆ ถือเป็นจุดท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมอย่างมากแห่งหนึ่ง
อาหารกลางวันแสนอร่อย
ประกอบด้วยร้านอาหารสไตล์เซนไดที่นิยมเสริฟเป็นชุดหรือเซตแบบญี่ปุ่น สนนราคาก็ราวๆ 1100-2000 เยน (สามารถใช้ตั๋ววันเดย์เพื่อเป็นส่วนลดได้อีกด้วย) นอกจากนี้ยังมีอาหารทานเล่น ชา กาแฟ หรือร้านปิ้งย่างสไตล์เซนไดอีก 7 ร้าน ไว้คอยบริการนั่งท่องเที่ยว
กลับไปยังสารบัญศาลเจ้าโอซากิฮาจิมังกุ
・ป้ายรถบัสหมายเลข:⑫โอซากิฮาจิมังกุ
・เข้าชมฟรี
・ระยะเวลาเที่ยวชม: ประมาณ 30 นาที
ศาลเจ้าโอซากิอาจิมังกุ เป็นศาลเจ้าที่มีสถาปัตยกรรมตกแต่งด้วยการทาสีทองลงบนสีดำ เป็นศาลเจ้าขนาดใหญ่สร้างขี้นหลังจากมีการสร้างเมืองเซนไดแล้ว ศาลเจ้าแห่งนี้มีเทพเจ้าแห่งราศีสุนัข (อินุ) ไว้คอยปกป้องปราสาทเซนไดนั่นเอง
เทพเจ้าองค์นี้คอยปกป้องเมืองเซนไดมามากกว่า 400 ปีเลยทีเดียว
เป็นศาลเจ้าที่ประเทศญี่ปุ่นกำหนดให้เป็นสมบัติของประเทศ ไม่ว่าจะมากราบไหว้หรือทำกิจกรรมของชาวเมืองก็เป็นที่นิยมเช่นกัน
ในทุกๆเดือนจะมีกิจกรรมต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นงานแต่งงานหรือมาไหว้ขอพร ดังนั้นถ้ามาในช่วงทำกิจกรรม เราอาจจะได้เห็นเจ้าสาวสวยๆก็ได้
สำหรับท่านใดจะมากราบไหว้ขอพร สามารถมาได้เลยไม่ต้องจองล่วงหน้าเพราะมีบริการทุกวัน
และท่านที่มีตั๋ววันเดย์สามารถแสดงที่ร้านค้าเพื่อรับของขวัญพิเศษได้อีกด้วย
ศาลเจ้าแห่งนี้ได้รับความนิยมและมีชื่อเสียงทั้งในและต่างประเทศ
เว็บไซต์
http://www.oosaki-hachiman.or.jp/
แผ่นพับข้อมูลภาษาอังกฤษ
http://www.oosaki-hachiman.or.jp/pop/index.html
เดินเที่ยวถนนโจเซนจิโดริ
・ป้ายรถบัสหมายเลข
เลือกลงได้ 2 แห่งคือ ⑭มีเดียเทคมายด์ และ ⑮โจเซนจิโดริชิยัคคุโชมายด์
เป็นถนนท่องเที่ยวที่ชาวเมืองเซนไดภูมิใจเสนอ
ได้รับความนิยมมากมาย รวมไปถึงมีภาพยนต์ ละคร มาถ่ายเป็นฉากประกอบในเรื่องอีกด้วย
เดือนกันยายนที่ผ่านมามีการจัดงานแจ๊สเฟสติวัลที่ถนนแห่งนี้
ในช่วงต้นเดือนพฤศจิกายนถึงต้นเดือนธันวาคม ซึ่งเป็นช่วงฤดูใบไม้ร่วง จะสามารถชมความสวยงามของสีของใบไม้ทั้งสีเหลือง แดง ที่เรียงรายริมสองข้างทางถนนโจเซนจิโดริ
ใครที่ได้มีโอกาสเที่ยวชมถนนช่วงนี้รับรองฟินสุดๆๆ
นอกจากนี้ริมสองฝั่งทางยังมีรูปปั้นต่างๆ ไว้ดึงดูดนักท่องเที่ยวได้อีกด้วย
เมื่อหมดช่วงฤดูใบไม้ร่วงไปแล้ว จะมีการติดตั้งแสงสีไฟต่างๆประดับริมสองข้างทาง สวยงามมากๆอีกเช่นกัน
สำหรับผมขอแนะนำให้ทุกท่านมาเที่ยวในช่วงฤดูใบไม้ร่วงและช่วงการแสดงแสงสีไฟประดับในช่วงนี้ครับเพราะความสวยงามต้องบอกว่าสุดๆไปเลย
เที่ยวได้ทุกฤดูที่ประตูสู่ภาคตะวันเฉียงเหนือ(โทโฮคุ)ของญี่ปุ่น ต้องที่เมืองเซนได จังหวัดมิยางิ
เที่ยวรอบเมืองเซนได้อย่างมืออาชีพต้องใช้ตั๋วรูพุรุเซนได (Loople Sendai Bus)
เว็บไซต์อ้างอิง Loople Sendai Bus
http://loople-sendai.jp/about/